Sequencing Words

Sequencing Words

Sequencing Words คือ คำที่ใช้ในการแสดงลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1. Ordinal Numbers การบอกเป็นลำดับที่ เช่น first, second, third, etc.

2. การบอกเป็นขั้นตอนโดยใช้คำศัพท์ต่อไปนี้

Abruptly	After	After a few days
After a long time	After a short time	After a while
After that	Afterward	All at once
All of the time	All the while	Always
As long as	As soon as	At first
At last	At length	At present
At that time	At the beginning	At the end
At that onset	At the same time	At this moment
At times	Before	Begin
By now	Commence	Commencing
Concurrently	Consequently	Continually
Currently	Cyclically	Directly
During	Earlier	Embark
Eventually	Every time	Final
Finally	First	Following
Following that	Former	Formerly
Frequently	From this point	Generally
Gradual	Henceforth	Hereafter
Heretofore	Immediately	In an instant
In awhile	In conclusion	In the end
In the first place	In the future	In the last place
In the meantime	In the past	In the second place
In turn	In frequently	Initial
Instantly	Instantaneously	Intermittent
Just then	Last	Last of all
Lastly	Later	Later on
Later that day	Little by little	Meanwhile
Momentarily	Never	Next
Not at all	Not long after	Not long ago
Now	Occasionally	Of late
Often	Often time	On the next occasion
Once	Once upon a time	Past
Periodically	Preceding	Present
Presently	Previously	Prior to
Promptly	Quick	Rarely
Recently	Repeatedly	Right after
Right away	Second	Seldom
Sequentially	Shorty	Simultaneously
Slow	So far	Some of the time
Some time	Soon	Soon after
Soon afterward	Sporadically	Starting with
Subsequently	Suddenly	Temporary
The latter	The next	The final
Then	Thereafter	This instant
Third	To begin with	To conclude
To finish	Today	Tomorrow
Twice	Uncommon	Ultimately
Until	Until now	Usually
When	While	Yesterday
Yet

ยังสงสัยกันอยู่ใช่มั้ยล่ะว่าเจ้า Sequencing Words มันมีวิธีการใช้ยังไง? ครูมีวิดีโอตัวอย่างในการใช้คำเหล่านี้ ลองไปดูกันเลยค่า!

Relative Pronouns: คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนาม

 

Relative Pronouns

 คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนาม (Relative Pronouns) มีดังต่อไปนี้

Subject	Object	Possessive
who	who(m)	whose
which	which	whose
that	that

เราจะใช้ who และ whom กับบุคคล, และ which กับสิ่งของต่าง ๆ
หรือเราจะใช้ that ทั้งกับบุคคลและสิ่งของต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน

เราใช้ relative pronouns เมื่อ

         • ตามหลัง คำนาม เพื่อ เน้นย้ำ ถึงบุคคลหรือสิ่งของที่เรากำลังพูดถึง

เช่น

               the house that Jack built
               the woman who discovered radium
               an eight-year-old boy who attempted to rob a sweet shop

         • เพื่อบอกรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคคลหรือสิ่งของนั้น ๆ

เช่น 

               My mother, who was born overseas, has always been a great traveller.
               Lord Thompson, who is 76, has just retired.
               We had fish and chips, which is my favourite meal.

แต่เราจะ ไม่ ใช้ that เป็น ประธาน ในประโยครูปแบบต่อไปนี้

         เราใช้ whose เป็นการแสดงถึง ความเป็นเจ้าของ ของ who:

เช่น 

               

               This is George, whose brother went to school with me.

         บางครั้งเราจะใช้ whom แทนการบอกถึง กรรม ของคำกริยาหรือคำบุพบท

เช่น 

               This is George, whom you met at our house last year.
               This is George’s brother, with whom I went to school.

         แต่ ในปัจจุบันนี้ เราจะใช้แค่ who

เช่น 

               This is George, who you met at our house last year.
               This is George’s brother, who I went to school with.

เวลาที่ whom  หรือ which มีคำบุพบทติดมาด้วย คำบุพบทนั้น สามารถนำไปไว้ตรง ตอนต้น ของประโยคย่อยได้

เช่น 

               I had an uncle in Germany, from who[m] I inherited a bit of money.
               We bought a chainsaw, with which we cut up all the wood.

         … หรือ ตอน ท้าย ของประโยคย่อยได้เช่นกัน

เช่น 

               I had an uncle in Germany who[m] I inherited a bit of money from.
               We bought a chainsaw, which we cut all the wood up with.

         เราสามารถใช้ that ในตอนต้นของประโยคย่อย

เช่น 

               I had an uncle in Germany that I inherited a bit of money from.
               We bought a chainsaw that we cut all the wood up with.

Conditional Sentences with Present and Future Forms: ประโยคเงื่อนไขในรูปแบบปัจจุบันและอนาคต

 

Conditional Sentences with Present 

and Future Forms

 

             เราสามารถใช้ประโยคเงื่อนไข (Conditional Sentences) ในกล่าวถึงสาเหตุและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในที่นี้ เราจะกล่าวถึง การเป็นเหตุเป็นผลของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเสมอ (Present Facts) และการเป็นเหตุเป็นผลของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (Future Facts)

Present Facts

เราจะใช้ปัจจุบันกาล (Present Simple Tense) ทั้งประโยคหลักและประโยคย่อย

เช่น

• If you cook an egg in the microwave, it explodes.

        ถ้าหนู ๆ ต้มยำทำแกงกับไข่ไก่ในไมโครเวฟ(อย่างไม่ถูกวิธี) มันก็จะระเบิดตู้มเป็นโกโก้ครั้นช์อย่างแน่นอน

• If you put water in the freezer, it becomes ice.

        ถ้าหนู ๆ นำน้ำไปใส่ในช่องแช่แข็ง ยังไง๊ยังไงมันก็ต้องกลายเป็นน้ำแข็ง ไม่มีทางกลายเป็นน้ำส้มได้

Future Facts

ในประโยค if clause เราจะใช้ปัจจุบันกาล (Present Simple Tense) และใช้อนาคตกาล (Future Simple Tense) ไม่ว่าจะเป็นคำว่า going to หรือ will ในการบอกผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เช่น

• If John gets the job, he will be happy.

        ถ้าบักจอนได้งานนี้ทำ บักจอนจะต้องมีความสุขแน่ ๆ 

• If Laurie doesn't go to college, she's going to be very sorry.

        หากแม่สาวลอรี่ไม่ได้ไปเรียนที่วิทยาลัย นางก็คงจะเศร้าเสียใจแน่นอน

Comparative and Superlative Adjectives: คำคุณศัพท์ที่ใช้ในการเปรียบเทียบขั้นกว่าและขั้นสูงสุด

 

Comparative and Superlative Adjectives

             รูปของคำคุณศัพท์ที่เราใช้ในการเปรียบเทียบขั้นกว่า (Comparative Adjectives) ใช้เปรียบเทียบของสองสิ่ง หรือ คนสองคน (เช่น She is prettier than me. เธอน่ารักกว่าฉัน) ส่วนรูปของคำคุณศัพท์ที่เราใช้ในการเปรียบเทียบขั้นสูงสุด (Superlative Adjectives) ใช้เปรียบเทียบบุคคลหรือสิ่งของหนึ่งสิ่งกับกลุ่มคนหรือสิ่งของทั้งหมด (เช่น James Ji is the most handsome guy in Thailand.)


             ในการเปลี่ยนรูปของคำคุณศัพท์เพื่อการเปรียบเทียบขั้นกว่าและขั้นสูงสุดนั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับคำคุณศัพท์นั้น ๆ มีกฎดังต่อไปนี้


คำคุณศัพท์ที่มีพยางค์เดียว

โดยทั่วไปแล้ว คำคุณศัพท์ที่มีพยางค์เดียว เราสามารถเติม -er หรือ -est ต่อท้ายคำนั้นได้เลย

เช่น

                                warm               warmer              warmest
                                quick                quicker              quickest
                                tall                   taller                  tallest


คำคุณศัพท์ที่มีพยางค์เดียว และลงท้ายด้วย e

ถ้าคำคุณศัพท์ที่มีพยางค์เดียว และลงท้ายด้วย e ให้เติม -r หรือ -st ต่อท้าย

เช่น

                                late                   later                  latest
                                nice                  nicer                  nicest
                                large                 larger                largest


คำคุณศัพท์ที่มีสองพยางค์

คำคุณศัพท์ที่มีสองพยางค์จะมีวิธีการเปลี่ยนรูปแตกต่างกันไป บางคำสามารถเติม -er/-est หรือ -r/-st ต่อท้ายได้เลย

เช่น

                                feeble                feebler               feeblest

บางคำจะต้องมีคำว่า "more" นำหน้า หากใช้ในการเปรียบเทียบขั้นกว่า และคำว่า "most" นำหน้า หากใช้ในการเปรียบเทียบขั้นสูงสุด

เช่น

                               famous           more famous            most famous

บางคำสามารถเปลี่ยนรูปได้ทั้งสองแบบ คือแบบเติม -er/-est หรือ -r/-st ต่อท้าย และใช้ more กับ most นำหน้า

เช่น

                          clever                cleverer/more clever       cleverest/most clever


คำคุณศัพท์ที่มีสามพยางค์ขึ้นไป

หากคำคุณศัพท์มีสามพยางค์ขึ้นไป เราจะใช้คำว่า "more" และ "most" นำหน้าคำนั้น ๆ

เช่น

                          interesting         more interesting             most interesting
                          attractive           more attractive               most attractive


คำคุณศัพท์ที่เปลี่ยนการสะกดคำจากรูปเดิม

คำคุณศัพท์บางคำจะเปลี่ยนการสะกดคำจากรูปเดิม เมื่อนำมาใช้ในการเปรียบเทียบขั้นกว่าและขั้นสูงสุด

• คำคุณศัพท์ที่มีพยางค์เดียว และลงท้ายด้วยตัวพยัญชนะหนึ่งตัว (เช่น big, wet, sad, fat) เราจะต้องเพิ่มพยัญชนะตัวนั้นเข้าไปหนึ่งตัวก่อนการเติม -er หรือ -est

        เช่น

                                  big                   bigger               biggest
                                  wet                  wetter               wettest
                                  sad                  sadder               saddest

• ถ้าคำคุณศัพท์ลงท้ายด้วย y (เช่น happy, greedy, tidy) ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม -er หรือ -est

        เช่น

                                 happy               happier             happiest
                                 greedy              greedier            greediest
                                 tidy                  tidier                 tidiest

• แต่ก็มีคำคุณศัพท์บางคำที่เป็นข้อยกเว้น ไม่มีกฎในการเติม -er หรือ -est ตายตัว ดังนั้น เราจะต้องจำคำนี้ และนำไปใช้บ่อย ๆ

        เช่น

                                  bad                     worse              worst
                                  good                   better               best
                                  much                  more                most